รับออกแบบตกแต่งร้านอาหาร และ รีโนเวท
เราคือทีมงานบริษัท รับออกแบบตกแต่งร้านอาหาร รีโนเวท ภายใน อาคาร ตึกสูง อาคารพาณิชย์ ห้องแถว ห้างสรรพสินค้า ไอคอนสยาม (Icon Siam) เซ็นทรัล (Central) เดอะมอล (The Mall) บิ๊กซี (Big C) โลตัส (Lotus) ซีคอน สแควร์ (Seacon Suare) เมกาบางนา (Mega Bangna) เทอร์มินอล 21 (Terminal 21) วันแบงค็อก (One Bangkok) ฟิวเจอร์พาร์ค (Future Park) และห้างสรรพสินค้าอื่นๆ ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด โดยทีมงานผู้ออกแบบ วิศวกร มืออาชีพ ที่เข้าใจกระบวนการในการทำงานตามกฎระเบียบ ข้อบังคับของฝ่ายอาคาร สถานที่ พร้อมกับทีมช่างที่สามารถทำงานได้ทั้งเวลากลางวัน และในห้างสรรพสินค้าเวลากลางคืน ไว้บริการ รับออกแบบตกแต่งร้านภายในอาหาร แบบครบวงจร
ปัจจุบันนี้การขายอาหารจะมีค่อนข้างหลากหลาย ร้านอาหารก็มีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นร้านปิ้งย่าง ชาบู ชูชิ ร้านสุกี้ บุฟเฟ่ต์ หมูกระทะ จิ้มจุ่ม ก๋วยเตี๋ยว ราเมน ติ่มซำ ร้านอาหารทะเล เป็นต้น เนื่องจากธุรกิจร้านอาหารมีคนทำค่อนข้างเยอะ การแข่งขันทางธุรกิจก็สูงตามไปด้วยเช่นกัน การออกแบบตกแต่งร้านที่แตกต่าง จะทำให้สามารถส่งเสริม เพิ่มความน่าสนใจแก่คนที่เดินผ่านได้ ปัจจุบันความนิยมในอาหารตามสไตล์ท้องถิ่นดั่งเดิมก็ได้รับความนิยมค่อนข้างมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารเกาหลี ร้านอาหารอิตาเลี่ยน ร้านอาหารจีน ร้านแหนมเนืองอาหารเวียดนาม ร้านอาหารตามภูมิภาคของไทยก็สามารถออกแบบให้โดดเด่นได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารใต้ ร้านอาหารเหนือ และร้านอาหารอิสาน เป็นต้น
การออกแบบตกแต่งร้านอาหาร จะช่วยให้เข้าใจถึงวัฒนธรรมการรับประทานอาหารได้ดียิ่งขึ้น เช่นร้านอาหารญี่ปุ่น ก็ควรตกแต่งให้เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ญี่ปุ่น ในการตกแต่งลักษณะนี้จะทำให้ผู้รับประทานอาหาร ได้สัมผัสบรรกาศแบบญี่ปุ่นได้ดียิ่งขึ้น ในส่วนการจัดระเบียบฟังก์ชั่นการใช้งานในส่วนต่างๆ อย่างเช่น พื้นที่ต้อนรับ ทางเดิน โต๊ะนั่งรับประทานอาหาร พื้นที่ใช้สอยส่วนครัว ก็ต้องให้ได้ใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุด นอกจากความสวยงาม และตกแต่งให้เป็นที่น่าสนใจกับลูกค้าแล้ว ในการตกแต่งร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า จะค่อนข้างยุ่งยาก ซับซ่อนกว่าร้านอาหารที่อยู่ภายนอก ทั้งในเรื่องการขนย้ายวัสดุ อุปกรณ์เข้าทำงานภายในร้าน การยื่นแบบขออนุญาตเพื่ออนุมัติการก่อสร้าง ต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ เพื่อที่จะทำแบบขออนุญาตให้ผ่านเกณฑ์การเข้าทำงานก่อสร้าง เพราะการก่อสร้างภายในห้างสรรพสินค้า ไม่ได้มองแค่ภาพลักษณ์ความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ทางห้างสรรพสินค้าจะคำนึงเรื่องความปลอดภัย การออกแบบถูกต้องตามหลักวิศวกรรม การใช้วัสดุที่ได้มาตรฐานทั่วไป อาจจะใช้ไม่ได้ในบางห้าง บางที่จะกำหนดรูปแบบมาตรฐานของตึกอาคารเอง ที่จะใช้วัสดุที่คุณภาพสูงกว่าท้องตลาดทั่วไป รายละเอียดเรทอัตรา ราคาค่าออกแบบตกแต่งภายใน
ขอใบเสนอราคาฟรี ราคาเบื้องต้น- ร้านอาหารญี่ปุ่น
- ร้านอาหารเกาหลี
- ร้านอาหารอิตาเลี่ยน
- ร้านอาหารจีน
- ร้านอาหารอินเดีย
- ร้านแหนมเนือง อาหารเวียดนาม
- ร้านอาหารไทย
อันตราย !!! ข้อควรรู้ก่อน รีโนเวท ตกแต่งร้านอาหาร
1.การทำกันซึมป้องกันน้ำรั่วในครัว ถ้าไม่อยากเสียค่าปรับจากปัญหาน้ำรั่ว
2.การทำรางระบายน้ำ และท่อน้ำทิ้ง ปัญหาสะสมท่อตัน น้ำไม่ไหลแก้ไขก่อน
3.การเลือกใช้ชุดครัวสแตนเลส เลือกให้เหมาะสม ลดปัญหาทำอาหารติดขัด
4.งานระบบแก๊ส ข้อควรระวังอันตรายจากไฟใหม้
5.งานระบบดับเพลิง มั่นใจได้ถ้าอัคคีภัยเกิดขึ้น
6.การเลือกทีมงานออกแบบตกแต่งร้านอาหาร พิจารณาให้ดี ถ้าไม่อยากจ่ายเงินทิ้ง
1.การทำกันซึมป้องกันน้ำรั่วในครัว
หัวใจหลักของการออกแบบตกแต่งร้านอาหาร ก็คือห้องครัว ในส่วนนี้จะใช้งานค่อนข้างหนักกว่าบริเวณอื่น ฉะนั้นบริเวณนี้ก็จะสกปรกกว่าที่อื่น จึงต้องมีการทำความสะอาดทุกวัน ในการขัดล้างพื้น ผนัง และอุปกรณ์ต่างๆ เนื่องจากมีการทำความสะอาดค่อนข้างบ่อย ก็อาจจะทำให้ร่องยาแนวพื้นสึกเสียหาย ทำให้น้ำรั่วซึมลงไปชั้นล่างได้
การป้องกันน้ำรั่วซึมภายในครัว จะมีหลายวิธี เช่นใช้น้ำยากันซึมทาพื้นก่อนปูกระเบื้อง การผสมน้ำยากันซึมกับพื้นคอนกรีดที่มาเท บางร้านเป็นพื้นที่เช่า เราไม่รู้ประวัติความเป็นมาในการก่อสร้าง ดังนั้นเวลาป้องกันน้ำรั่วซึมที่ดีที่สุด และในหลายๆ ห้างสรรพสินค้าหลายที่นิยมทำกัน คือ การทำระบบกันซึมโดยใช้แผ่นเมมเบรน (PVC Sheet Membrane)
การทำกันซึมป้องกันน้ำรั่วโดยแผ่นเมมเบรน (PVC Sheet Membrane) ปกติกันซึมแบบแผ่นเมมเบรนโดยทั่วไปที่ผลิตจากโรงงาน จะมีความหนาที่ 3 มิลลิเมตร กระบวนการทำงานจะใช้วิธีต่อแผ่นโดยการปูทับให้เหลื่อมกันประมาณ 5 ซม.โดยใช้ความร้อนจากไฟหลอมละลายแผ่นรอยต่อให้ติดกัน ในร้านอาหารทั่วไปโดยส่วนใหญ่ก็จะปูที่ 1 ชั้น แต่ในห้างสรรพสินค้าบางที่ หรือที่เซ็นทรัล ก็จะมีกฎบังคับให้ปูแผ่น 2 ชั้น เป็นเป็นการป้องกันความเสียหายจำน้ำรั่วลงไปสู่ร้านที่อยู่ชั้นล่างได้ดียิ่งขึ้น วิธีทำกันซึมแบบนี้จะดีกว่าแบบทาน้ำยากันซึมที่พื้นซึ่งอายุการใช้งานน้อย ถ้าหากปูนมีการแตกร้าว หรือน้ำยาหมดอายุ น้ำก็จะหาทางซึมลงสู่บริเวณชั้นล่างได้
การทดสอบหลังจากทำกันซึม จะใช้วิธีขังน้ำในบริเวณที่ทำกันซึม โดยทั่วไปก็จะขังน้ำไว้ที่ความสูงที่ 20 เซ็นติเมตร บางอาคารก็จะให้ขังน้ำที่ระดับ 30 เซ็นติเมตร เมื่อได้ระดับแล้ววิธีเช็คเราก็จะทำการขีดเส้นตำแหน่งระดับน้ำไว้ หรือใช้สีสเปรย์พ่นไปที่น้ำกับขอบผนัง เสร็จแล้วทำการขังน้ำไว้โดยใช้เวลา 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อครบกำหนด ก็กลับมาเช็คระดับอีกครั้งว่าน้ำมีการลดระดับลงไหม ถ้าน้ำมีระดับคงที่ก็แสดงว่าผ่าน ใช้งานได้ แต่ถ้าการลดระดับลงก็แสดงว่าน้ำรั่วซึมตามรอยต่อต่างๆ จึงต้องรีบแก้ไขโดยด่วน
ข้อควรระวังในการขังน้ำ ช่วงเวลาที่มีการขังน้ำจะต้องมีคนเฝ้า 24 ชั่วโมง ถ้าน้ำมีการรั่วซึม ชั้นล่างจะได้ไม่เสียหายมาก และแก้ไขได้ทัน ทั้งนี้ผู้ดูแลต้องเตรียมเครื่องสูบน้ำไว้ด้วย ถ้าฉุกเฉินสามารถเปิดเครื่องสูบน้ำออกที่ท่อระบายน้ำได้ทันที
2.การทำรางระบายน้ำ และท่อน้ำทิ้ง
การตกแต่งร้านอาหาร ในพื้นที่ส่วนครัวปัญหาที่พบบ่อยคือ ท่ออุดตัน น้ำไหลไม่สะดวก มีเศษตะกอน เศษอาหารติดค้างท่อ จะทะลวงท่อบ่อยๆ ก็ไม่สะดวก ถ้ามีการออกแบบจัดการที่ดี ก็จะช่วยลดปัญหาในส่วนนี้ได้พอสมควร
การออกแบบทำรางระบายน้ำ และท่อน้ำระบายน้ำในร้านอาหาร สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การทำรางน้ำโดยใช้สแตนเลสทำราง แล้วใช้ตะแกรงปิดด้านบน การทำรางน้ำแบบร่องน้ำโดยการทำแบบเทปูนเพื่อทำราง แล้วปูกระเบื้อง และการทำรางน้ำโดยใช้ท่อ PVC เป็นต้น เพื่อมาตรฐาน ตึกอาคาร และห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่ นิยมใช้แบบสแตนเลส เราจึงนำเสนอแนะวิธีนี้ ซึ่งมีคุณสมบัติข้อดี สามารถทำความสะอาดได้ง่าย คราบเปื้อน คราบไขมัน ยึดเกาะไม่แน่น วัสดุไม่เป็นสนิม วัสดุไม่แตก ทำให้โอกาสที่น้ำจะรั่วซึมน้อย ในส่วนการใช้งานก็ไม่ต่างจะรางแบบอื่น คนทำความสะอาดสามารถเทน้ำชะล้างพื้น ผนัง แล้วน้ำก็จะไหลไปที่ราง พร้อมเศษตะกอน เศษอาหาร ก็จะไหลไปรวมตัวที่บ่อดักไขมัน ในส่วนนี้ก็จะมีตะแกรงที่จะแยกกาก เพื่อที่จะนำใส่ถุงขยะไปทิ้ง แล้วน้ำก็จะถูกบำบัดไหลเข้าไปสู่ท่อสาธารณะ ลดปัญหาท่ออุดตันได้
กระบวนการทำรางระบายน้ำ จะต้องเช็คระดับความสูงสโลป วิถีของน้ำไหลให้ดี บางทีการทำรางสแตนเลสก็จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับท่อระบายน้ำแบบ PVC เพราะบางพื้นที่ไม่สามารถวางตะแกรงได้ เพื่อที่จะได้ไม่ติดขาโต๊ะ ขาอุปกรณ์ชุดครัว การเชื่อมต่อระหว่างสแตนเลสจะต้องเช็คให้ดี ซึ่งสามารถทดสอบได้โดยการขังน้ำไว้ที่รางสแตนเลส และท่อ PVC ไว้ 24 ชั่วโมง ถ้าน้ำไม่ลดระดับลงต่ำกว่าเส้นที่ขีดไว้ ก็แสดงว่าการชื่อต่อระหว่างท่อและรางสมบูรณ์ ไม่มีปัญหา
ข้อควรคำนึง การทำรางระบายน้ำ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญที่สุดคือ การที่น้ำจะต้องไหลสะดววก น้ำจะต้องไม่ขังในท่อ และรางเป็นเวลานาน ดังนั้นการทำเอียงสโลปของรางระบายน้ำ จะต้องคำนวณปริมาณการใช้น้ำ ให้เหมาะสมกับขนาดของรางน้ำ และท่อน้ำให้เหมาะสมกัน กรณีในอาคาร หรือห้างสรรพสินค้า ที่ไปเช่าทำร้านอาหาร จะมีกฎไม่ให้เจาะพื้น และทำท่อระบายน้ำในชั้นล่าง ดังนั้นก็จำเป็นต้องยกพื้นสูงขึ้นมา เพื่อรองรับการไหลของน้ำ ทั้งนี้ผู้ออกแบบจะต้องคำนึงถึงการรับน้ำหนักพื้นที่ยกขึ้นมาด้วย การเชื่อมต่อของท่อ PVC แนะนำให้เชื่อมต่อแบบ Y จะดีกว่าเชื่อมต่อเป็นฉากแบบ L เพื่อที่น้ำจะได้ไหลเร็วสะดวก และลดปัญหาท่อดุดตัน
3.การเลือกใช้ชุดครัวสแตนเลส
การเลือกชุดครัวใช้ในการทำร้านอาหาร แบบสแตนเลส หรือจะเรียกอืกชื่อได้ เหล็กกล้าไร้สนิม เป็นโลหะผสมเหล็ก โดยมีส่วนผสมของโคเมียม ประมาณ 10 เปอร์เซ็น มีความแข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานนาน ไม่เป็นสนิม มีผิวแบบมันวาว และแบบด้านรอยขนแมว สามารถถอดแยกชิ้นขนย้ายได้ง่าย
การออกแบบตกแต่งชุดครัวสแตนเลสภายในร้านอาหาร โดยสามารถทำเป็นชั้นวางเก็บของ ตู้เก็บของ ตู้เย็น ซิงค์ล้างจาน เตาอบ และเตาแก๊สได้ โดยสั่งทำได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน ให้เหมาะสมกับประเภทของร้านอาหาร ทำให้สามารถจัดวางเครื่องครัวได้อย่างลงตัว
ข้อควรคำนึงในการทำเตาไฟ จะต้องดูความต้องการของประเภทอาหารที่ทำ เช่น เตาแก๊ส แรงดันสูง (เตาฟู่) เหมาะกับการใช้อาหารที่ต้องใช้ไฟแรง เช่นอาหารจีน อาหารไทย เป็นต้น ดังนั้นผู้ใช้งานจะต้องเป็นคนกำหนดความต้องการในการสั่งผลิตให้เพียงพอ อีกประเภทคือ เตาอินฟราเรดสแตนเลส ที่จะให้ไฟสม่ำเสมอ ประหยัดแก๊สได้ดีกว่า เหมาะกับอาหารต้ม ย่าง แต่ข้อเสีย อายุการใช้งานสั้น หัวเซรามิกมีโอกาสแตกได้ง่าย
4.งานระบบแก๊ส
การเดินท่อระบบแก๊สในร้านอาหาร เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการทำอาหาร เนื่องจากการเดินระบบแก๊สมีความเสี่ยงสูง ผู้ติดตั้งจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก ดังนั้นต้องอาศัยช่างที่มีความชำนาญ และใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน การต่อหัวแก๊สเข้ากับถังแก๊สโดยตรงจะทำให้สิ้นเปลืองปริมาณแก๊สมากกว่า ซึ่งบางทียังมีแก๊สตกค้างที่ถังมากเกินไป ในการเดินระบบแก๊สนี้จะช่วยให้ประหยัดค่าแก๊สในระยะยาวได้
การออกแบบงานระบบแก๊ส LPG ในร้านอาหาร จะต้องใช้ท่อแรงดันสูง และทนความร้อนที่อุณหภูมิสูง ข้อต่อทองเหลืองที่ทนความร้อนได้ดี มีตัวกันย้อนกรณีที่มีแก๊สน้อย แรงดันน้อยลง จะช่วยให้แก๊สมีแรงดันไปข้างหน้า และจะป้องกันแก๊สย้อนกลับไปที่ถัง มีหัวปรับแก๊ส Regulator สำหรับปรับแก๊สให้เหมาะสมกับหัวเตาแรงดันสูง หรือแรงดันต่ำ ตู้คอนโทรลสำหรับตัดแก๊สเมื่อมีปัญหา เพื่อให้ระบบตัดการทำงานอัตโนมัติ แจ้งเตือนเมื่อมีแก๊สรั่ว วาล์วปิดฉุกเฉินกรณีเร่งด่วน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จะต้องใช้งานในการออกแบบระบบ
ข้อควรคำนึง ที่วางถังแก๊สควรอยู่ในพื้นที่โล่ง อากาศถ่ายเทได้ดี มีการจัดวางทีเรียบร้อย แยกห่างจากโซนครัวที่ใช้ความร้อน มีผนังโปร่งเพื่อระบายอากาศล็อคปิดกันเพื่อป้องกันถังล้ม บริเวณวางถังต้องให้สามารถเปลี่ยนถังแก๊สได้สะดวกเมื่อแก๊สหมด ทำหลังคาปิดเพื่อป้องกันแดด และฝน
5.งานระบบดับเพลิง
การทำระบบดับเพลิงในการตกแต่งร้านอาหาร เนื่องจากเหตุไฟไหม้ส่วนใหญ่จะเกิดจากครัว เป็นจุดเสี่ยงที่จะเกิดเหตุอัคคีภัย และความเสียหายใหญ่ตามมา ฉะนั้นหากมีการป้องกันที่ดี ก็จะช่วยลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ซึ่งสาเหตุการในการเกิดไฟไหม้ส่วนใหญ่จะเริ่มไหม้จากฮูดดูดควัน (Hood) ที่อยู่บนเตา แล้วก็ลามตามท่อและส่วนอื่นๆ ไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญในส่วนนี้เป็นอันดับแรก
การออกแบบงานระบบดับเพลิง ส่วนครัวจะแนะนำการดับเพลิงที่ใช้น้ำยาเคมี (Wet Chemical) ในการดับไฟ เพราะถ้าเป็นน้ำเปล่า กรณีทำอาหารอยู่ หรือไฟไหม้ ยิ่งจะทำให้ไฟลุกไหม้ยิ่งกว่าเดิม เปรียบเทียบให้เห็นภาพชัด เหมือนกับทำอาหารผักบุ้งไฟแดง กรณีที่ไอความร้อนที่อุณภูมิ 170 C’ ที่มากกว่าการทำอาหารปกติ ตัวตรวจจับความร้อน (Fire Decection Tube) ที่มีแรงดันอยู่ภายใน ก็จะทำงานโดยการฉีดน้ำยาเคมีที่อยู่ในถัง มาดับไฟที่หน้าเตา โดยปกติแล้วการดับไฟจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วินาที ก็สามารถดับได้ แต่ระบบที่ตั้งไว้ปกติจะอยู่ที่ 15 วินาที เผื่อมีความร้อนยังอยู่ จะช่วยให้ดับเพลิงได้อย่างสนิท
ข้อควรคำนึง ในการทำระบบดับเพลิงเคมี จะต้องมีถังเก็บ ซึ่งขนาดของถังจะเล็กใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนหัวเตาในครัว ฉะนั้นกรณีที่มีจำนวนเตามาก ก็ต้องเตรียมพื้นสำหรับเก็บถังเคมีให้เพียงพอ โดยส่วนใหญ่ร้านอาหารที่เป็นพื้นที่เช่า บริเวณในครัวจะมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัดที่เต็มไปด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์สแตนเลส อุปกรณ์ไฟฟ้า และอื่นๆ ฉะนั้นผู้ออกแบบจะต้องเตรียมพื้นที่สำหรับส่วนนี้
6.การเลือกทีมงานออกแบบตกแต่งร้านอาหาร
ร้านอาหารเป็นสถานที่จำหน่ายอาหารซึ่งเป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่จำเป็นสำหรับทุกคนที่ขาดไม่ได้ ในวงการอาหาร ก็มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ในการขายอาหาร นอกจากรสชาติที่อร่อย บรรยากาศความสวยงาม แปลกใหม่ สไตล์ที่โดนใจในร้านก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่สามารถดึงดูดคนให้เข้ามาในร้านอาหารได้
วิธีพิจารณาเลือกทีมงานตกแต่งภายในร้านอาหาร ซึ่งการตกแต่งร้านอาหารสามารถตกแต่งได้หลากหลายสไตล์ ในเรื่องความสวยงาม และการทำแบบงานระบบต่างๆ ต้องเลือกผู้ออกแบบที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของเราได้ ในเรื่องฟังก์ชันการใช้งาน ปริมาณพื้นที่ต่อจำนวนลูกค้า การเว้นระยะทางเดิน และการจัดเรียงโต๊ะให้เหมาะสม และความสวยงามในการตกแต่งซึ่งเป็นปัจจัยหลัก
ฉะนั้นต้องอาศัยทีมงานผู้ออกแบบที่มีประสบการณ์ ส่วนการก่อสร้างตกแต่งร้านอาหาร ถือว่าเป็นงานที่ทำยุ่งยาก ซับซ้อนกว่างานตกแต่งประเภทอื่น เนื่องจากในร้านอาหารมีงานระบบ ค่อนข้างเยอะ เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ระบบแก๊ส ระบบดับเพลิง ระบบแอร์ และยังมีงานในส่วนงานเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน งานตกแต่งพื้น ผนัง ฝ้าเพดาน งานป้ายสัญลักษณ์ งานกราฟิก และอื่นๆ ซึ่งการทำงานจะต้องแข่งขันกับเวลาที่จำกัด
ผู้รับเหมาที่จะเข้าไปทำการตกแต่งร้านอาหารจะต้องมีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ เพื่อที่จะได้วางแผนการทำงาน ราบรื่น ไม่ให้ติดขัดจากการทำงานแต่ละประเภท เพราะไม่งั้นแล้ว ผลที่ตามมาในเรื่องค่าปรับอาคารที่เจ้าของร้านต้องจ่ายให้ฝ่ายอาคาร กำหนดที่จะเปิดร้านก็ต้องเลื่อนออกไป ซ้ำยังต้องจ่ายค่าเช่ากับเวลาที่เสียไป รายได้ที่ขาดไป เงินเดือนพนักงานที่ต้องจ่ายระหว่างรอเปิดร้าน ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ผู้จะทำร้านอาหารจะต้องพิจารณาให้ไตร่ตรองถี่ถ้วน
สรุป
การออกแบบตกแต่งร้านอาหาร มีความซับซ้อนในการทำงานหลายด้าน ที่เกี่ยวข้องกับงานระบบต่างๆ เช่น งานระบบไฟฟ้า ระบบแอร์ ระบบประปา ระบบดับเพลิง ระบบแก๊ส ต้องอาศัยความรู้ ความเชียวชาญ ในการทำงานแต่ละประเภท แนะทำให้ท่านใช้ทีมงานผู้ออกแบบมืออาชีพ เพื่อความสวยงาม ความปลอดภัย และป้องกันเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหลัง ถ้าท่านมีความประสงค์ ทางเรายินดี รับออกแบบตกแต่งร้านอาหาร ไว้ค่อยบริการแก่ท่าน