ออกแบบตกแต่งภายในออฟฟิศ สร้างบรรยากาศกระตุ้นความคิด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ปัจจุบัน ออฟฟิศ ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่สำหรับทำงานอีกต่อไป แต่คือพื้นที่สำคัญในการสร้างสรรค์วัฒนธรรมองค์กร กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และเป็นปัจจัยหลักในการดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถไว้ การออกแบบตกแต่งภายในออฟฟิศแบบเดิม ๆ ที่เน้นเพียงแค่ความเรียบร้อยและมีโต๊ะทำงานเพียงพออาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป องค์กรยุคใหม่ต่างมองหาการ ออกแบบออฟฟิศ ที่ผสมผสานความสวยงาม ฟังก์ชันการใช้งาน และสุขภาพความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
หากคุณกำลังวางแผน รับออกแบบตกแต่งภายในออฟฟิศ หรือ รับรีโนเวทออฟฟิศ ให้ทันสมัยและตอบโจทย์การทำงานในโลกยุคใหม่ บทความนี้จะมอบ 10 ไอเดียที่ผ่านการคิดวิเคราะห์ตามหลักการทำงานสมัยใหม่ เพื่อช่วยให้คุณสร้างสรรค์พื้นที่ทำงานที่ดึงดูดใจและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทีมได้จริง
10 ไอเดียออกแบบออฟฟิศยุคใหม่ที่ช่วยปลุกพลังและเพิ่มประสิทธิภาพ
1. การออกแบบพื้นที่แบบ Activity-Based Working (ABW)
ABW คือแนวคิดที่พนักงานสามารถเลือกพื้นที่ทำงานได้ตามลักษณะของงานที่กำลังทำอยู่ ไม่ใช่การจัดสรรโต๊ะประจำ ไอเดียนี้เน้นความยืดหยุ่นและช่วยให้พนักงานควบคุมสภาพแวดล้อมของตนเองได้
ตัวอย่าง
- Focus Zones ห้องทำงานเดี่ยวหรือตู้โทรศัพท์ (Phone Booths) สำหรับงานที่ต้องการสมาธิสูง
- Collaboration Zones โต๊ะยาวหรือพื้นที่เปิดโล่งพร้อมกระดานไวท์บอร์ดสำหรับระดมสมองเป็นกลุ่ม
- Social Zones พื้นที่ส่วนกลาง, ครัว, หรือคาเฟ่ สำหรับการพักผ่อนและพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ
2. ผสานองค์ประกอบของธรรมชาติ (Biophilic Design)
Biophilic Design คือการนำธรรมชาติเข้ามาสู่พื้นที่ทำงาน ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดความเครียด เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ และปรับปรุงสุขภาพจิตของพนักงาน
แนวทาง
- เพิ่มพืชพรรณในร่มที่มีชีวิต (Living Walls หรือกระถางต้นไม้ขนาดใหญ่)
- การเข้าถึง แสงธรรมชาติ ให้มากที่สุด
- ใช้วัสดุที่มีพื้นผิวและสีสันตามธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน หรือลวดลายของพืชพรรณ
- การจัดวางที่ให้พนักงานสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้ง่าย
คำแนะนำ: หากคุณกำลัง รับรีโนเวทออฟฟิศ ลองทุบผนังบางส่วนเพื่อติดตั้งกระจกบานใหญ่แทนผนังทึบ
3. ลงทุนกับเก้าอี้และโต๊ะทำงานตามหลัก Ergonomics
ออฟฟิศซินโดรมเป็นปัญหาใหญ่ การให้ความสำคัญกับสุขภาพทางกายของพนักงานคือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด การออกแบบตามหลัก สรีรศาสตร์ ช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างสบายและมีประสิทธิภาพมากขึ้นตลอดทั้งวัน
สิ่งที่ควรมี
- เก้าอี้ Ergonomic ที่สามารถปรับระดับความสูงและพนักพิงได้
- โต๊ะทำงานแบบปรับระดับความสูง (Sit-Stand Desk) เพื่อให้พนักงานเปลี่ยนอิริยาบถได้
- ที่วางเท้า, ที่รองข้อมือ, และขาตั้งจอที่ได้ระดับสายตา
4. การใช้สีและแสงที่เหมาะสมตามจิตวิทยา
สีและแสงมีผลต่ออารมณ์และสมาธิของคนอย่างมาก การเลือกใช้โทนสีที่เหมาะสมกับลักษณะงานในแต่ละโซนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้
แนวทาง
- โซนทำงานที่ต้องการสมาธิ ควรใช้โทนสีเย็น (Cool Tones) เช่น สีฟ้าอ่อน สีเขียวอ่อน ที่ให้ความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย
- โซนสร้างสรรค์/ระดมสมอง ควรใช้สีโทนอุ่น (Warm Tones) ที่สดใส เช่น สีส้ม สีเหลือง เพื่อกระตุ้นความคิดและความกระตือรือร้น
- ระบบไฟ ควรใช้แสงไฟที่ปรับอุณหภูมิสีได้ (Tunable Lighting) ให้ใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติ และหลีกเลี่ยงแสงไฟที่จ้าหรือมืดจนเกินไป
5. สร้างห้องสมาธิ หรือ Quiet Room
แม้จะเป็นออฟฟิศแบบเปิด แต่ก็ยังจำเป็นต้องมีพื้นที่ให้พนักงานสามารถหลีกหนีจากเสียงรบกวนภายนอกได้ชั่วคราว เพื่อพักผ่อนหรือใช้สมาธิกับงานที่ต้องโฟกัสเป็นพิเศษ
สร้างห้องขนาดเล็กที่กันเสียง อาจมีเก้าอี้ที่นั่งสบาย ไฟสลัว ๆ และไม่มีอุปกรณ์เทคโนโลยีใด ๆ ที่รบกวนสมาธิ (No-Tech Zone) ช่วยให้พนักงานได้ รีเซตตัวเอง ลดภาระทางความคิด และกลับไปทำงานด้วยความสดชื่น
6. พื้นที่พักผ่อนและสังคม
พื้นที่เหล่านี้ทำหน้าที่เป็นหัวใจของออฟฟิศ ที่ช่วยส่งเสริมปฏิสัมพันธ์และสร้างความผูกพันในทีม
แนวทาง
- ออกแบบให้มีบรรยากาศเหมือนคาเฟ่หรือห้องนั่งเล่นที่บ้าน
- ครัวขนาดใหญ่พร้อมเคาน์เตอร์บาร์
- โซฟาและเก้าอี้ที่นั่งสบาย
- มุมเล่นเกม หรือโต๊ะพูล
7. โซนสื่อสารแบบไม่เป็นทางการ
นอกเหนือจากห้องประชุมที่เป็นทางการ ออฟฟิศยุคใหม่ควรมีพื้นที่สำหรับการพูดคุยสั้น ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า
ตัวอย่าง
- เคาน์เตอร์สูงพร้อมเก้าอี้บาร์ใกล้หน้าต่าง
- มุมโซฟาเล็ก ๆ พร้อมโต๊ะกาแฟ
- พื้นที่ยืนประชุม พร้อมจอแสดงผลขนาดเล็ก
ข้อดี: ช่วยให้การตัดสินใจและการแก้ปัญหาเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอห้องประชุมว่าง
8. การจัดการเสียงภายในพื้นที่
ในออฟฟิศแบบเปิด เสียงรบกวนคือศัตรูตัวฉกาจของสมาธิ การจัดการเสียงจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพการทำงาน
แนวทาง
- การติดตั้งแผงกันเสียงบนผนังและเพดาน
- การใช้พรมหรือวัสดุบุพื้นผิวที่ช่วยดูดซับเสียง
- การติดตั้งระบบเสียงพื้นหลัง ที่ช่วยกลบเสียงพูดคุยรบกวน
คำแนะนำ: เลือกใช้ฉากกั้นระหว่างโต๊ะที่ทำจากวัสดุกันเสียง แทนที่จะเป็นแค่พาร์ทิชันใสธรรมดา
9. การออกแบบที่ส่งเสริมการเคลื่อนไหว
การนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานไม่ดีต่อสุขภาพ การออกแบบที่กระตุ้นให้พนักงานลุกขึ้นเดินและเคลื่อนไหวเป็นระยะจึงเป็นสิ่งจำเป็น
แนวทาง
- จัดวางเครื่องปริ้นเตอร์หรือตู้เก็บเอกสารไว้ในระยะที่ต้องเดินไป
- ออกแบบบันไดให้สวยงามและน่าใช้มากกว่าลิฟต์
- มีพื้นที่สำหรับออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายสั้น ๆ
10. การปรับใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด
การออกแบบต้องรวมเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานยุค Hybrid ให้ง่ายขึ้น
ตัวอย่าง
- ระบบจองห้องประชุมอัจฉริยะ (Smart Room Booking System)
- การชาร์จไร้สาย ที่ติดตั้งในโต๊ะทำงานหรือเคาน์เตอร์ส่วนกลาง
- ระบบภาพและเสียงคุณภาพสูงในทุกห้องประชุม เพื่อรองรับการประชุมทางไกล
ไอเดค ดีไซน์ บริษัทรับออกแบบออฟฟิศครบวงจร พร้อมสร้างสรรค์พื้นที่ให้คุณ
หากคุณกำลังมองหา บริษัทรับออกแบบออฟฟิศ ที่เข้าใจถึงหลักการทำงานยุคใหม่ และต้องการให้พื้นที่ของคุณเป็นมากกว่าแค่ที่ทำงาน แต่คือเครื่องมือในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต
ไอเดค ดีไซน์ คือผู้เชี่ยวชาญด้านการรับออกแบบตกแต่งภายในออฟฟิศ และรับรีโนเวทออฟฟิศ ที่ผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมภายในและงานระบบเข้าไว้ด้วยกันอย่างครบวงจร เราพร้อมให้บริการตั้งแต่การให้คำปรึกษา การออกแบบแนวคิด ไปจนถึงการควบคุมงานก่อสร้างและตกแต่งภายในอย่างมืออาชีพ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าออฟฟิศของคุณจะออกมาสวยงาม ใช้งานได้จริง และตอบโจทย์ทุกความต้องการขององค์กรได้อย่างสมบูรณ์
พร้อมที่จะเปลี่ยนออฟฟิศเก่าให้เป็นพื้นที่ปลุกพลังแห่งการทำงานหรือยัง?
ติดต่อ IDEC Design เพื่อรับการปรึกษาและขอใบเสนอราคาได้แล้ววันนี้


