เคล็ดลับออกแบบห้องแต่งตัว Walk-in Closet เก็บของง่าย ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า
การออกแบบห้องแต่งตัว walk in closet
ห้องแต่งตัว หรือ walk in closet หมายถึง พื้นที่หรือห้อง ที่ติดกับห้องนอน เป็นพื้นที่ปิดที่ใช้สำหรับเก็บของ เสื้อผ้า และอุปกรณ์เครื่องแต่งกายต่างๆ การที่ได้มีห้องแต่งตัวในบ้าน จะช่วยให้คุณมีพื้นที่จัดสรรค์ จัดเก็บเสื้อผ้าได้อย่างเป็นระเบียบ สามารถแยกประเภท ให้ง่ายและสะดวกกับการหยิบใช้งานในชีวิตประจำวัน สามารถออกแบบให้มีการใช้งานได้หลากหลายฟังก์ชั่น
สิ่งสำคัญที่ต้องรู้ก่อนออกแบบห้องแต่งตัว
ก่อนที่จะเริ่มทำการออกแบบ ห้องแต่งตัวนี้ สิ่งที่ควรรจะคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือ ควรเริ่มจากการวิเคราะห์ จำนวน ปริมาณ ขนาดสิ่งของที่เรามี ว่าเราจะเก็บอะไรไว้ในห้องนี้บ้าง และของแต่ล่ะสิ่งมีขนาดเท่าไหร่ และควรมีพื้นที่ให้กับสิ่งของนั้นเท่าไหร่ เพื่อที่เราจะได้จัดสรรค์พื้นที่ให้ได้อย่างพอเหมาะพอดี ตามความต้องการ และสะดวกกับการใช้งานที่สุด และเมื่อเรากำหนดออกแบบตกแต่งภายในได้อย่างลงตัวได้แล้ว ก็มาดูสิ่งต้องคำนึงถึง ในขั้นต่อไปของการออกแบบ ห้องแต่งตัวกันเลย
8 หลักการออกแบบห้องแต่งตัวให้ใช้งานได้จริง
ห้องแต่งตัวที่ดีต้องผสมผสานระหว่างความสวยงามและการใช้งานจริง ไม่ใช่แค่ดูดีเท่านั้น แต่ต้องออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน ช่วยให้คุณเลือกเสื้อผ้าได้สะดวก รวดเร็ว และสนุกกับการแต่งตัวมากขึ้น
หากคุณกำลังมองหาวิธีออกแบบหรือปรับปรุงห้องแต่งตัว ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านรับตกแต่งภายในบ้านของเรามีเคล็ดลับมาแนะนำ
1.ระยะทางเดิน walk in closet
วิเคราะห์จากพื้นที่ที่เรามี ดูจากขนาดพื้นที่ กำหนดตำแหน่งที่เราจะติดตั้งชั้น หรือตู้ ให้ชัดเจน และต้องไม่ลืมเรื่องของการเว้นระยะทางเดิน เนื่องจากทางเดินภายในห้อง ควรไม่ต่ำกว่า 60 cm และควรคำนึงถึงระยะเปิด-ปิด ของประตูตู้เสื้อผ้า หากพื้นที่ห้องมีขนาดเล็ก เราสามารถเลือกใช้ หน้าบานตู้แบบ บานเลื่อน เพื่อลดระยะการเปิด-ปิด ของประตูได้ ข้อดีของการใช้ ประตูตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อน คือ จะทำให้ คุณมีพื้นที่ในการใช้งาน ที่กว้างมากขึ้น กว่าการใช้ประตูบานเปิด และประหยัดพื้นที่ทางเดิน แต่ก็จะมีข้อเสีย ตรงที่อุปกรณ์รางเลื่อนหากไม่เลือกให้ดี ก็มีโอกาสชำรุดได้ง่าย
การจัดวาง lay-out มีหลากหลายแบบ ในพื้นที่ห้องสี่เหลี่ยม เช่น
- ลักษณะตัว I
- ลักษณะตัว L
- ลักษณะตัว U
2.ระยะห่างของชั้น
การแบ่งระยะชั้น จากการวิเคราะห์ขนาดสิ่งของแล้ว เราจะได้ขนาดที่ชัดเจน ที่เราจะใช้เก็บสิ่งของและอุปกรณ์ จากขนาดของสิ่งของที่เราจะนำมาใส่ เช่น ช่องเก็บกระเป๋า รองเท้า ระยะความสูงของ ชั้น ประมาณ 35-50 cm เป็นต้น อย่าลืมคำนึงถึงกระเป๋าเดินทาง หรือ รองเท้าบูธด้วย
5.หน้าบานตู้
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว เรื่องหน้าบานของตู้เสื้อผ้า คุณสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมตามความต้องการใช้งานได้ มีทั้งแบบบานเปิด และบานเลื่อน แต่ในหัวข้อนี้ เราจะมาพูดถึง วัสดุหน้าบานตู้เสื้อผ้า ปัจจุบันมีวัสดุหลากหลายให้คุณเลือกใช้ ส่วนใหญ่นิยมใช้หน้าบาน แบบโปร่งใส หรือมีความทึบ บ้างเล็กน้อยเพื่อที่เราจะ สามารถมองเห็นเสื้อผ้าหรือ สิ่งของที่แยู่ภายในได้เลย เพราะ พื้นที่ walkin closet เป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างส่วนตัว เราสามารถจะไม่ใส่หน้าบ้านตู้ก็ได้หากพื้นที่ของคุณเป็นพื้นที่ปิดแล้ว
วัสดุ ที่นิยมใช้ หน้าบานแบบโปร่งใส เช่น กระจกใส ,กระจกฝ้า ข้อดีคือ คุณจะสามารถ มองเห็นของใช้ หรืออุปกรณ์ต่างๆที่อยู่ภายในได้ สะดวกต่อการใช้งาน และวัสดุมันวาว หรือความเงา จะช่วยเพื่อความหรูหรา ให้กับตู้เสื้อผ้าของคุณได้ ข้อเสีย คือ จะต้องเก็บเสื้อผ้า ภายในให้เป็นระเบียบอยู่เสมอ เพื่อความสวยงามในการพบเห็น
หน้าบานแบบทึบ เช่น หน้าบานแบบไม้อัด ปิดผิวลามิเนต หรือพ่นสี ข้อดีคือสามารถออกแบบให้กลมกลืน ไปกับงานออกแบบบภายในพื้นที่ได้ และช่วยปกปิด ความไม่เรียบร้อยภายในตู้เสื้อผ่าได้อย่างดี ข้อเสียคือ คุณต้องใช้ความจำ ในการจัดวางสิ่งของ หรือไม่อย่างนั้น คุณจะต้องเปิดหาของที่คุณต้องการ จากทุกตู้จนทั่ว อาจจะทำเสียเวลามากขึ้นเล็กน้อย
อีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยในการประหยัดพื้นที่มากขึ้นคือ ใช้หน้าบานตู้เป็นกระจกเงา เพื่อที่คุณจะได้ประหยัดพื้นที่ในการใช้ติดกระจก เพื่อส่องดูความเรียบร้อย หรือลองชุดต่างๆ เนื่องจากหน้าบานตู้มีขนาดค่อนข้างใหญ่ สามารถใช้พื้นที่ตรงนี้ ติดเป็นกระจกเงาได้เลย
8.ม้านั่ง (bench)
ควรเลือก ขนาดที่นั่ง ที่พอดีกับขนาดของห้อง หากห้องมีขนาดเล็กมาก ควรเลือกใช้ Stool หรือ Armchair แทนจะเหลือพื้นที่ทางเดินมากขึ้น ข้อดีของการมีม้านั่งในห้องแต่งตัวคือ คุณสามารถใช้ นั่งสวมถุงเท้า รองเท้า ได้ และมีความสุขกับการเลือกเสื้อผ้าได้นานยิ่งขึ้น
ไอเดียออกแบบห้องแต่งตัวตามสไตล์
สไตล์มินิมอล (Minimal/Scandinavian)
- ใช้โทนสีขาว เทา และไม้โทนสว่าง
- เฟอร์นิเจอร์เรียบง่าย ไม่มีลวดลายมาก
- เน้นความเป็นระเบียบและหลักการ Less is More
- เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสะอาดตา ไม่รกรุงรัง
สไตล์หรูหรา (Luxury/Glam)
- ใช้โทนสีทอง เงิน ดำ และขาว
- เน้นวัสดุอย่างกระจก กระจกเงา และโลหะมันวาว
- มักมีโคมไฟระย้าหรือแชนเดอเลียร์เพื่อเพิ่มความโดดเด่น
- เหมาะสำหรับคนที่มีกระเป๋าหรือรองเท้าคอลเลกชัน
สไตล์โมเดิร์น (Modern Contemporary)
- โทนสีเทาเข้ม น้ำเงิน ขาว และไม้
- เส้นสายการออกแบบเรียบ ตรง และสะอาดตา
- ใช้ไฟ LED Strip ซ่อนตามช่องต่าง ๆ
- เหมาะกับคนที่ชอบความทันสมัยและเรียบหรู
สไตล์อินดัสเทรียล (Industrial)
- ใช้วัสดุอิฐเปลือย คอนกรีต และโลหะสีดำ
- ใช้ท่อเหล็กเป็นราวแขวนเสื้อ
- ตกแต่งด้วยโคมไฟสไตล์โรงงาน
- เหมาะกับผู้ชายหรือผู้ที่ชอบความดิบ เท่ และมีเอกลักษณ์
สไตล์บูทีค (Boutique)
- จัดเสื้อผ้าแบบ Display ให้ดูสวยงาม
- ใช้ไฟส่องเฉพาะจุดเพื่อสร้างบรรยากาศ
- มีการติดตั้งกระจกบานใหญ่และม้านั่งที่มีดีไซน์
- เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายรูปหรือมีเสื้อผ้าแบรนด์เนมจำนวนมาก
20 ไอเดียการออกแบบตู้เสื้อผ้าที่สวยงามอย่างมีสไตล์
สนใจออกแบบหรือรีโนเวท Walk-in Closet เรายินดีบริการรับออกแบบตกแต่งภายในห้องนี้ให้คุณ


